6 อาชญากรรมออนไลน์ ที่คนไทยมักตกเป็นเหยื่อ
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ( Vishing Phishing ) มักพยายามสร้างสถานการณ์ให้ผู้เสียหายตกใจกลัว หรือสวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยรัฐต่างๆโดยแอบอ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนรู้เห็นหรือเข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทำสิ่งผิดกฎหมาย หากมั่นใจว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้สอบถามข้อมูลกับคู่สายอย่างละเอียด และขอวางสายก่อนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกที
- หลอกให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ ( Ponzi Scheme ) มาในรูปแบบของแอพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ที่หลอกชักชวนให้ร่วมลงทุนในหลากหลายธุรกิจ โดยอ้างว่าจะได้รับผลกำไรตอบแทนที่สูงในระยะเวลาสั้นๆ ควรศึกษาหาความรู้ก่อนลงทัน คิดก่อนตัดสินใจ เมื่อถูกชักชวนให้ลงทุน ตื่นตัวและติดตามข่าวสารใหม่ ที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่หรือการหลอกลงทุนอยู่เสมอ
- หลอกรักออนไลน์ ( Romance Scam ) มิจฉาชีพมักสร้างโปรไฟล์ที่ดูดีน่าเชื่อถือ และมีฐานะ โดยเข้ามาทักทายและพูดคุยและตีสนิทให้ผู้เสียหายหลงรักและเชื่อใจจนขาดสติ หลงโอนเงินหรือทรัพย์สินให้โดยง่ายก่อนโอนเงินให้บุคคลที่คุ้นเคย หรือรู้จักจากช่องทางออนไลน์ ควรตรวจข้อมูล และประวัติให้แน่ใจก่อน
- หลอกขายสินค้า ( Sales Scam ) หลอกให้ผู้เสียหายเชื่อใจ โอนเงินมัดจำให้ หลังผู้เสียหายชำระเงินแล้วไม่มีการจัดส่งสินค้า สินค้าไม่ตรงปก ไม่ได้มาตรฐานหรือสินค้าปลอม แล้วทำการบล็อกหรือลบช่องทางการติดต่อควรเลือกชำระสินค้าแบบปลายทาง หรือนัดรับสินค้าแบบเจอกัน และสามารถนำรายชื่อผู้ขายไปตรวจสอบประวัติการโกงเบื้องต้นได้ที่
- หลอกผ่านอีเมล ( Email Scam ) มาในรูปแบบข้อความหรืออีเมลแสดงความยินดี หรือเชิญชวนทำงาน โดยกดลิงก์ผ่านเว็บไซต์ที่มิจฉาชีพปลอมขึ้นมาเพื่อให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัวควรตรวจสอบที่มาของเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่
- หลอกขายทัวร์ ( Tourist Scam ) การขายทัวร์ทิพย์ ส่วนมากสร้างเพจกลุ่มท่องเที่ยวในสื่อออนไลน์ ให้เกิดความเชื่อถือด้วยภาพที่ไปเที่ยวในต่างประเทศ หรือใช้หน้าม้ามารีวิวจัดโปรแกรมท่องเที่ยวในราคาไม่แพงเก็บเงินล่วงหน้าแล้วหาเหตุหลบหนี อย่าหลงเชื่อโปรโมชั่น ที่ถูกเกินความเป็นจริง อย่าหลงเชื่อรีวิวง่ายๆ และควรตรวจสอบบริษัทหรือเจ้าของทัวร์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ